ที่เที่ยววันหยุด ใกล้ๆ 2 วัน 1 คืน เที่ยวงบน้อย แบบชิลๆ เที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน งบไม่เกิน 2,000
- 24 June 2023
- kung
เที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน งบไม่เกิน 2,000 นอนแพริมน้ำ ล่องแพเปียก ชิลกว่านี้ไม่มีแล้ว
กาญจนบุรี เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่หลายคนมักคิดถึงเวลาอยากไปเดินทางไปเที่ยว เพราะเมืองกาญจน์มีที่เที่ยวเยอะ และเที่ยวได้ทั้งปีอีกด้วยค่ะ และวันนี้เราจะพาไปชิลนอนแพที่ กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน งบไม่เกิน 2,000 ใครอยากจะตามไปเที่ยวแบบเราก็จัดไปได้เลย !
รวมที่เที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน
นอนแพกาญจน์ อย่างชิล
DAY 1
เช้านี้เราออกจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไปกาญจนบุรีประมาณ 3 ชม.เท่านั้น ก็มาถึงจุดแวะที่แรกใน อำเภอเมืองกาญจนบุรี คือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนจะเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีค่ะ
สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกมาก่อสร้างทางรถไฟที่กาญจนบุรี ไปยังพม่าค่ะ
ใกล้ๆ กับสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักจะมี พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางรถไฟสายไทย-พม่า เริ่มตั้งแต่การเข้ามาของญี่ปุ่น การออกแบบและการสร้างทางรถไฟ สภาพภูมิศาสตร์ของทางรถไฟ สภาพชีวิตในค่ายเชลยศึก การทิ้งระเบิดและการทำลายทางรถไฟ และเหตุการณ์หลังจากสงครามยุติ
หลังจากนั้น เราก็ไปแวะกันต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของกาญจนบุรี ถ้าไม่ได้แวะมาเรียกได้ว่ามาไม่ถึงเมืองกาญจน์เลยทีเดียวที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ค่ะ
ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ ที่ต้องใช้หยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งชีวิตของเชลยศึกพันธมิตรนับหมื่นคน เพื่อให้ได้มาซึ่งทางรถไฟที่มีความยาวถึง 415 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ไปสู่ปลายทางที่เมืองทันบูซายัค ประเทศพม่า สำหรับใช้ลำเลียงอาวุธ และกำลังพลเพื่อไปโจมตีพม่าและอินเดียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ ที่ต้องใช้หยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งชีวิตของเชลยศึกพันธมิตรนับหมื่นคน เพื่อให้ได้มาซึ่งทางรถไฟที่มีความยาวถึง 415 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ไปสู่ปลายทางที่เมืองทันบูซายัค ประเทศพม่า สำหรับใช้ลำเลียงอาวุธ และกำลังพลเพื่อไปโจมตีพม่าและอินเดียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
ท้องเริ่มร้องจ้อกๆ แล้วล่ะค่ะ นี่ก็เที่ยงกว่าๆ พอดี เราพักเรื่องเที่ยวมาเติมพลังกันก่อนดีกว่า เดินจากสะพานข้ามแม่น้ำแควมาหน่อยนึงก็จะเห็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ทั้งเป็นแบบร้านอาหารธรรมดา และร้านอาหารบนแพ ว่าแล้วก็อยากนั่งทานข้ามริมน้ำชิมบรรยากาศไปด้วย เลยพาตัวเองมาถึง Floating Restaurant แพร้านอาหารใกล้ๆ ค่ะ
ที่นี่เป็นร้านอาหารที่ให้บรรยากาศแบบไทยๆ แต่ก็มีเมนูหลากหลาย ทั้งอาหารไทย และอาหารฝรั่งค่ะ แล้วแต่ว่าใครชอบสไตล์ไหนสามารถเลือกสั่งได้ตามใจ ว่าแล้วเราก็จัดอาหารไทยเมนูเด็ดๆ ของร้านมาลองสักหน่อย ทั้งผัดผักหวาน ต้มยำปลาคัง หมึกนึ่งมะนาว มื้อนี้อิ่มกันสุดๆ ไปเลยค่ะ
หลังจากอิ่มแปร่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปถึงที่พักคืนนี้ของเราแล้วค่ะ ไฮไลท์ของคืนนี้คือ การนอนแพ ครั้งแรกของเรา ไม่รู้ว่าจะสนุกขนาดไหน ใช้เวลาสักพักจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราก็มาถึงที่พักของเราค่ะ บ้านริมแคว แพริมน้ำ ที่พักริมแม่น้ำแคว กาญจนบุรี บรรยากาศดี ไฮไลท์ของที่นี่คือวิวสวยๆ ของรางรถไฟ และรถไฟบนชะง่อนผาสูงชันริมแม่น้ำนั่นเอง ทำให้หลายคนออกจากกรุงเทพฯ มาเพื่อชิลกินบรรยากาศแสนสบายนี้ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในรีสอร์ทให้เราได้สนุกตลอดทั้งบ่าย เริ่มด้วยการให้อาหารกระต่ายค่ะ ที่นี่มีสวนย่อมเล็กๆ ที่เลี้ยงกระต่ายน่ารักๆ ไว้เพียบ ใครชอบเจ้าตัวเล็กพวกนี้ก็สามารถไปติดต่อขอซื้ออาหารกระต่ายจากล็อบบี้ และนำมาให้อย่างใกล้ชิดได้เลย แต่อย่าได้เอาอาหารอื่นๆ มาให้กระต่ายนะคะ เพราะกระต่ายอาจท้องเสีย หรือตายได้ค่ะ
สำหรับใครที่ชอบกิจกรรมผาดโผน แอดเวนเจอร์หน่อยๆ ก็เตรียมตัวไป ล่องแพเปียก ได้เลย จะเป็นการล่องแพทวนแม่น้ำแควขึ้นไป และปล่อยให้เราได้ลงเล่นน้ำในแม่น้ำแควที่ไหลเย็นโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้นั่นเองค่ะ นอกจากจะได้เล่นน้ำจากแม่น้ำแควแล้ว ยังได้ชมวิวสวยๆ อีกด้วย จบวันนี้ไปแบบเหนื่อยพอควร
DAY 2
หลังจากได้นอนพักหนึ่งคืนบนแพ ที่แวดล้อมด้วยต้นไม้ ริมแม่น้ำแคว เหมือนได้พักชาร์จแบตชีวิตทีเดียวค่ะ หลังทานอาหารเช้าแล้ว เราสามารถไปร่วมกิจกรรมชม ถ้ำกระแซ กับทางรีสอร์ทได้ค่ะ ซึ่งถ้ำกระแซนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรีสอร์ทเลยค่ะ สามารถลงเรือและข้ามไปเที่ยวชมภายในถ้ำ พร้อมถ่ายรูปสวยๆ บนรางรถไฟได้อีกด้วยนะ
หลังจากกลับมาถ้ำกระแซ เช็คเอ้าท์เรียบร้อย ที่เที่ยวที่จะไปแวะต่อ ก็อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทค่ะ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ศิลปะขอมแห่งเดียวที่เมืองกาญจน์ ปราสาทเมืองสิงห์ ค่ะ
เมื่อเราเข้ามาภายในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจีน อำนวยความสะดวก แนะนำประวัติศาสตร์ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของปราสาทเมืองสิงห์ให้กับนักท่องเที่ยวค่ะ สำหรับตัวปราสาทนั้นจะมี 5 จุดที่น่าสนใจด้วยกันซึ่งไม่ไกลกันมาก สามารถเดินชมได้ทั่วค่ะ
พอได้เวลากลับบ้านทีไร ไม่ค่อยอยากจะกลับเลยค่ะ 2 วัน 1 คืนที่เมืองกาญจน์อาจจะยังไม่พอให้หายอยากเที่ยว แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีแค่ 2 วันต่ออาทิตย์ ทริปนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกทริปที่ดี และชิลมากๆ ค่ะ ใครที่มีเวลาไปเที่ยวไม่มาก แต่อยากมาชิลบ้าง พักบ้าง ก็ตามแพลนนี้มาได้นะคะ
cr.https://travel.trueid.net/detail/JEXy56wQPGr